
LINE MAN Wongnai ผู้นำแพลตฟอร์มออนดีมานด์และข้อมูลร้านอาหารของไทยเผยธุรกิจฟู้ดเดลิเวอรีโตสวนตลาด เร่งโตเพิ่มในพื้นที่ต่างจังหวัด ลุยขยายธุรกิจ Non-food และ Merchant Solutions เสริมแกร่งสู่เป้าหมาย National Champion
LINE MAN เผยมูลค่าธุรกรรมรวม (GMV) โต 33% สวนตลาด ลุยขยายการเติบโตธุรกิจ Non-Food
คุณยอด ชินสุภัคกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร LINE MAN Wongnai เปิดเผยว่า ภาพรวมธุรกิจฟู้ดเดลิเวอรีของ LINE MAN ตั้งแต่เดือนมกราคม 2565 จนถึงเมษายน 2566 มีมูลค่าธุรกรรมรวม (GMV) เติบโตขึ้น 33% ในขณะที่ตลาดฟู้ดเดลิเวอรีในปีนี้คาดการณ์ว่าจะมีมูลค่าประมาณ 8.1-8.6 หมื่นล้านบาท หรือลดลงราว 0.8-6.5% จากการประเมินของศูนย์วิจัยกสิกรไทย
หากพิจารณาตามพื้นที่ ตั้งแต่เดือนมกราคม 2565 จนถึงเมษายน 2566 พื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑลมีจำนวนออร์เดอร์เติบโตขึ้น 25% จำนวนผู้ใช้งานเติบโตขึ้น 27% ในขณะที่พื้นที่ต่างจังหวัดมีจำนวนออร์เดอร์เติบโตถึง 17% และจำนวนผู้ใช้งานเติบโตขึ้น 10% จึงเตรียมวางแผนทุ่มงบการตลาดเพื่อดึงดูดผู้ใช้งานและเพิ่มตัวเลือกร้านอาหารทั่วประเทศไทยให้มากขึ้น LINE MAN ยังได้เปิดตัวฟีเจอร์ใหม่เพื่ออำนวยความสะดวกให้ลูกค้า เช่น ฟีเจอร์สั่งอาหารเป็นกลุ่ม เพิ่มความสะดวกแก่ผู้ใช้งานให้สามารถสั่งอาหารพร้อมกันกับเพื่อนหรือครอบครัวได้ในออร์เดอร์เดียว รวมถึงฟีเจอร์ LINE MAN Only รวบรวมร้านที่สั่งได้เฉพาะบน LINE MAN และฟีเจอร์เก็บโค้ดลดเพิ่ม

นอกจากนี้ LINE MAN ยังเร่งขยายการเติบโตของบริการออนดีมานด์ในกลุ่ม Non-food ได้แก่ บริการส่งสินค้า เมสเซนเจอร์ และแท็กซี่ โดยปี 2565 ที่ผ่านมาพบการเติบโตที่น่าสนใจ ได้แก่
- LINE MAN MESSENGER บริการส่งของ เอกสาร และวางบิลด่วน รายแรกที่ให้บริการครบทั้ง 77 จังหวัดทั่วไทย พบยอดการใช้งานรวมเติบโตขึ้น 2 เท่า และเฉพาะในพื้นที่ต่างจังหวัดเติบโตขึ้น 4 เท่า พื้นที่ที่มีการใช้งานสูงที่สุดอยู่ในพื้นที่เมือง ได้แก่ กรุงเทพฯ ปริมณฑล พัทยา และเชียงใหม่ ล่าสุดได้เพิ่มเติมฟีเจอร์ใหม่ Pin For Me ให้ผู้รับปักหมุดได้เอง รวมถึงเพิ่มตัวเลือกมอบหมายงานให้ไรเดอร์ช่วยวางบิล ส่งเอกสาร ขอลายเซ็น หรือเดินขึ้นอาคาร เพิ่มจากการส่งเอกสารอย่างเดียว
- LINE MAN MART บริการสั่งของสด-ของใช้ด่วน มีจำนวนร้านค้าบนแพลตฟอร์มกว่า 50,000 ร้าน มียอดออร์เดอร์เติบโต 1.6 เท่า ในปี 2566 เร่งขยายจำนวนร้านค้าแบรนด์ชั้นนำ 11 แบรนด์ ครอบคลุมกว่า 2,000 สาขาทั่วประเทศ ได้แก่ B2S, Betagro, BigC, Boots, Family Mart, Fascino, Gourmet Market, Matsumoto, OfficeMate, Pure และ Tops
- LINE MAN TAXI บริการเรียกแท็กซี่ พบความต้องการของผู้ใช้งานเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ปี 2565 มีการเติบโตถึง 2 เท่า ชูจุดแข็งบริการเรียกแท็กซี่ที่ใช้งานง่าย ได้มาตรฐาน จ่ายค่าบริการตามมิเตอร์ และมีค่าธรรมเนียมเรียกเริ่มต้นที่คุ้มค่า นอกจากนี้ LINE MAN ยังได้ใช้เทคโนโลยีเพื่อปรับปรุงการรับงานของคนขับแท็กซี่ให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ช่วง 3 เดือนที่ผ่านมาสามารถเพิ่มการรับงานแท็กซี่ต่อวันได้เฉลี่ย 21%

ด้านธุรกิจ Merchant Solutions ที่ถือเป็นกลุ่มธุรกิจเสริมแกร่งพอร์ตรายได้ของ LINE MAN Wongnai ชู Wongnai POS ระบบจัดการร้านอาหารและการขายผ่านเดลิเวอรีที่ครองอันดับ 1 ในตลาด POS ปัจจุบันมีผู้ประกอบการร้านอาหารใช้งานมากกว่า 50,000 ร้าน และเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่องหลังจากที่การทานอาหารนอกบ้านกลับมาคึกคัก ตั้งเป้าขยายสัดส่วนการใช้งาน POS ในร้านอาหารแบบ Dine-in เพิ่มขึ้นทั่วประเทศ เพื่อผลักดันร้านอาหารนำเทคโนโลยีมาใช้บริหารจัดการร้าน
เปิดแนวทางการดำเนินธุรกิจโดยคำนึงถึงสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล (ESG)
ปีที่ผ่านมาถือเป็นจุดเริ่มต้นที่ LINE MAN Wongnai มุ่งเน้นการดำเนินธุรกิจโดยคำนึงถึงสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล (ESG) อย่างจริงจัง โดยได้เปิดแนวทาง ESG ประจำปี 2566 ในประเด็นปัญหาที่บริษัทมีความเกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็น ประเด็นเรื่อง Plastic Waste และ Food Waste ที่ได้พัฒนาฟีเจอร์ไม่รับช้อนส้อมพลาสติกบนแอปฯ LINE MAN ตั้งแต่เดือนมกราคม 2564 ถึงปัจจุบันสามารถลดขยะพลาสติกที่ใช้ครั้งเดียวไปแล้วกว่า 3,286 ตัน และเตรียมต่อยอดฟีเจอร์ใหม่เลือกไม่รับเครื่องปรุงเพื่อลดขยะพลาสติกและขยะอาหาร คาดว่าจะสามารถลดขยะอาหารได้อีกกว่า 5 ตันต่อเดือน
LINE MAN Wongnai ยังให้ความสำคัญกับคุณภาพชีวิตและการพัฒนาทักษะอาชีพของไรเดอร์ ผ่านโครงการฝึกอบรมร่วมกับหน่วยงานต่างๆ เช่น กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน รวมถึงชูประเด็นด้านความหลากหลาย (Diversity & Inclusion) สร้างองค์กรให้เป็นพื้นที่ปลอดภัยสำหรับทุกคนได้เป็นตัวเองและแสดงศักยภาพได้อย่างเต็มที่ ผ่านสวัสดิการที่สนับสนุนความเท่าเทียมทางเพศ อย่างการให้เงินขวัญถุงกับคู่แต่งงานเพศเดียวกัน ทัดเทียมกับคู่สมรสชาย-หญิง โดยไม่จำเป็นต้องรอกฎหมายสมรสเท่าเทียมในไทย

คุณยอด กล่าวทิ้งท้ายว่า เป้าหมายของเราในวันนี้ ไม่ได้มองเพียงแค่ของเรา แต่เรามองถึงความสำเร็จของทุก ๆ คนที่อยู่ภายใต้ระบบนิเวศน์ของเรา ซึ่งเป็นนิยามความสำเร็จที่ยั่งยืน สร้างการเติบโตไปพร้อม ๆ กัน ภายใต้ วิสัยทัศน์ “Help Thai People Live Better” เพื่อเดินหน้าสู่เป้าหมายการเป็น National Champion ที่สร้างผลกระทบเชิงบวกให้กับทุกภาคส่วน และสร้างความภาคภูมิใจให้กับคนไทยทุกคน